
ต่อมาในสมัยพระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงสุธรรมสิมธิประสงค์ เป็นข้าหลวง ต่างพระองค์ที่เมืองอุบลฯ คราวหนึ่งมีการแห่บั้งไฟที่วัดกลาง มีคนไปดูมาก ในการแห่ บั้งไฟมีการทะเลาะวิวาททุบตีกันถึงแก่ความตาย ทรงเห็นว่าประเพณีบุญบั้งไฟไม่เหมาะสมเพราะบางครั้งบั้งไฟแตกถูกประชาชนบาดเจ็บ มีการเล่นคลุกดินคลุกโคลนสกปรกเลอะเทอะ ทั้งไม่ใช้ประเพณีทางศาสนาจึงให้ ยกเลิกประเพณีนี้ เปลี่ยนเป็นประเพณีแห่เทียน เข้าพรรษาแทนการแห่เทียนเข้าพรรษาแต่เดิมไม่ได้ทำใหญ่โตเช่นปัจจุบัน ชาวบ้านร่วมกัน บริจาคเทียนแล้วนำเทียนมาติดกับลำไม้ไผ่ หากกระดาษสีเงินสีทองเป็นลายฟันปลา บิดตามรอยต่อเสร็จแล้วก็แห่ไปถวายวัด ส่วนการทำเทียนในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ประเภท แบบติดพิมพ์ และแบบแกะสลัก